วิธีเลี้ยง เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์ จิ้งจอกตัวเล็กสุดแสนน่ารัก

การ เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์ ในปัจจุบันเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กที่มีความน่ารัก โดยมี มีขนาด 15 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม มีขนสีครีมคาดด้วยแถบสีดำเฉพาะบริเวณหาง มีอายุประมาณ 12-16 ปี โดยมีต้นกำเนิดจากทะเลทรายซาฮาร่าและพื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ซึ่งการเลี้ยงก็แตกต่างจากสุนัขทั่วไป หากใครกำลังคิดจะเลี้ยงแต่ไม่รู้ว่าเริ่มต้นยังไงเราจึงนำข้อมูลดี ๆ มาแนะนำกัน

วิธี เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์

ก่อนที่จะเลี้ยงจำเป็นต้องรู้ว่าตัวเองใช้ชีวิตประจำวันแบบไหน เพราะน้องจะมีนิสัยคล้าย ๆ แมวกับสุนัขในตัวเดียวกัน บางทีก็ร่าเริง บางทีก็อยู่สันโดษเงียบ ๆ หากจะเลี้ยงก็ต้องมีเวลาเล่นด้วยเพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าวลง เพราะยังคงมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าเหลืออยู่ บางทีตอนกลางคืนก็จะส่งเสียงเห่าหอนจนรบกวนเพื่อนบ้าน ดังนั้นควรฝึกเลี้ยงในกรงเมื่อตอนเล็ก ๆ และปล่อยเข้าออกกรงให้เป็นเวลา หรือหากมีห้องเหลือ ๆ ก็สามารถเลี้ยงในห้องได้ก็จะช่วยให้น้องไม่เครียดเพราะมีพื้นที่ให้วิ่งเล่น

การเลี้ยงในกรงก็ควรมีความไม่น้อยกว่า 2 ฟุต มีผ้ารองพื้นไว้สำหรับนอน ภายในต้องเรียบไม่อับ เปียกแฉะ หากเลี้ยงนอกบ้านควรมีหลังคามิดชิดที่กันแดดกันฝนได้ อุปกรณ์ใส่อาหารควรกว้างแข็งแรงไม่พลิกคว่ำง่าย อาจจะใช้แบบยึดติดกับกรงได้ก็จะดี ในกรงก็อาจจะมีของเล่นสำหรับน้องด้วย

หลังจากที่พัฒนาสายพันธุ์ เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์ จะไม่ออกล่าเหยื่อโดยสามารถกินแมลงตัวเล็ก พืช ผัก ผลไม้ ได้หลายอย่างแต่อาหารหลัก ๆ ควรเป็นอาหารสุนัขเกรดสูงที่อุดมไปด้วยโปรตีน และควรเปลี่ยนอาหารบ่อย ๆ เพื่อจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ในส่วนของผักผลไม้ก็อย่าง เช่น กล้วย มะละกอ มะม่วง แต่ไม่ควรให้ทุกวันควรจะสลับกับอาหารเม็ด เนื้อสัตว์ ไข่ต้ม

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือการกินเนื้อดิบทุกวัน เพราะอาจจะมีเชื้อโรคโดยเฉพาะพยาธิ และเนื้อดิบไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนั้นหากจะให้กินควรจะให้สัปดาห์ละครั้ง โดยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็พอแล้ว

การ เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์ สามารถเลี้ยงเพียงตัวเดียว หรือจะเลี้ยงเป็นฝูงก็ได้แต่ต้องมีตัวผู้เพียงตัวเดียว ไม่งั้นอาจจะมีการสู้กันจนถึงตายเพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูง

จะเห็นได้ว่าการ เลี้ยงเฟนเนกฟ็อกซ์ ไม่ได้ยาก และไม่ได้ง่ายแต่สิ่งสำคัญก็คือควรจะเข้าใจธรรมชาติ และมีเวลาดูแลเอาใจใส่ ควรพาหมั่นพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อฉีดวัคซีน และขอคำแนะนำต่าง ๆ ก็จะช่วยให้น้องมีความร่าเริงแจ่มใสร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้น