การให้สิ่งของกันและกันนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมากของคนเรา ที่ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการให้นั้นก็อาจจะด้วยเหตุผลสาเหตุที่แตกต่างกันไป เช่นของขวัญวันเกิด มอบรางวัลตอบแทนต่าง ๆ การช่วยเหลือผู้อื่น และรวมไปถึงการทำของบริจาคให้สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนนับเป็นการให้รูปแบบหนึ่ง หรือจะเป็นการให้ของต่าง ๆ เพราะเสน่หา
ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ให้ แต่จะมีสิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า พินัยกรรม ที่เจ้าของทรัพย์สินได้ทำการเขียนระบุไว้ว่าต้องการมอบ “มรดก” ให้ใครเมื่อเจ้าของนั้นเสียชีวิตไปแล้ว สำหรับบุคคลที่จะมีรายชื่อเป็นผู้รับภายในพินัจกรรมอาจจะเป็นลูก หรือพ่อแม่ ครอบครับ หรืออื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวกับก็ได้ เช่น บริจาคให้องค์กรการกุศล หรือ โรงพยาบาล เป็นต้น
ซึ่งการทำพินัยกรรมขึ้นมานั้น ก็จะเป็นการช่วยให้การจัดการกับทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้ตายให้สามารถจัดระเบียบตามความเหมาะสม และความต้องการได้มากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันเราเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยอำนวยสะดวกในการทำพินัยกรรมให้ง่ายยิ่งขึ้น และ ในยุค digital ที่การเข้าถึงเรื่องต่าง ๆ จากโซเชียลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ และข้อมูลต่างๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก หากจะนับเป็นทรัพย์สินก็คงจะได้เหมือนกัน และการเก็บข้อมูลก็สามารถทำได้หลายรูปแบบและหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นบน Computer บนโทรศัพท์ หรือบน Cloud (คลาวน์) เป็นต้น
ซึ่งก็มีหลายคนที่เคยให้ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้า ว่าถ้าหากเกิดวันหนึ่งเราเสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทาง digital ต่าง ๆ ของเราที่จะยังคงอยู่ เช่น Account สมาชิกบนเว็บต่าง ๆ นั้นจะมีใครไปทำอะไรกับมันหรือไม่ หรือจัดการข้อมูลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของเราอย่างไร ยิ่งถ้าหากข้อมูลต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการต่อไป เพื่อให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุด หรือกรณีที่ข้อมูลดิจิตอลนั้นสามารถทำเงินสร้างกำไรได้ ก็จะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก และต้องได้รับการดูแลหรือรับช่วงต่อ แต่จะทำยังไงล่ะหากไม่มีรหัสผ่านหรือข้อมูลสำหรับการเข้าถึง
โดยที่ในปัจจุบันการทำ พินัยกรรมดิจิทัล ก็ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบุคคลที่ทำงานจากข้อมูลสื่อสาร ซึ่งการทำ พินัยกรรมดิจิดัลในปัจจุบันก็ไม่มีแต่ของ Facebook และ Twitter เพียงเท่านั้น แต่ยังมีของแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Apple , Google เป็นต้น ที่ถือว่าทั้งสองยักษ์ใหญ่ได้เป็นคนริเริ่มแนวคิดดังกล่าวมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ดังนั้นหากการทำพินัยกรรมแบบเดิมมีความสำคัญอย่างไร การทำพินัยกรรมดิจิทัล ก็มีความสำคัญที่ไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายังไงทุก ๆ ชีวิตก็ต้องสิ้นสุดด้วยการจบลงไป เพราะฉะนั้นการทำพินัยกรรมการเลือกผู้ดูแลไว้จึงสำคัญ และจำเป็นเพื่อให้ครอบครัวได้จัดการข้อมูลเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น และเมื่อเราจากไปก็จะมั่นใจได้ว่าจะมีผู้มาดูแลข้อมูลเหล่านั้นต่ออย่างแน่นอน
